TNR ขยายตลาดถุงยางอนามัยในภูมิภาคเอเชีย ผนึกพันธมิตรบุกตลาดจีน-เดินเกมเจาะร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น

ย้อนกลับ29 มกราคม 2561

บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ‘ONETOUCH(TM)’ รุกขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย โชว์ผลงานส่งมอบถุงยางให้แก่คู่ค้าในต่างประเทศเพื่อส่งไปจำหน่ายในประเทศจีน พร้อมขยายตลาดในญี่ปุ่นหลังได้ออเดอร์ผลิตถุงยางแบบบรรจุกระป๋องจากผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อชั้นนำในประเทศญี่ปุ่นเพื่อวางจำหน่ายภายในร้าน

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ‘ONETOUCH(TM)’ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ วางแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยในประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียที่มีความต้องการใช้สินค้าเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาได้ส่งมอบสินค้า ให้แก่คู่ค้าในต่างประเทศที่เป็นพันธมิตรเพื่อส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศจีน เริ่มต้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซูโจวและหังโจว ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากภาพรวมตลาดถุงยางอนามัยในจีนกำลังเติบโตจากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่นิยมใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และช่วยการคุมกำเนิดเพิ่มขึ้น บริษัทฯ จึงคาดหวังจะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศจีนและตลาดในภูมิภาคเอเชีย

ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับออเดอร์ผลิตถุงยางอนามัยแบบบรรจุกระป๋องจำนวน 300,000 กระป๋อง หรือประมาณ 1.5 ล้านชิ้น และเจลหล่อลื่นแบบบรรจุกระป๋องจำนวน 100,000 กระป๋อง ที่มีการออกแบบแพ็กเก็จจิ้งใหม่อย่างสวยงามเพื่อสร้างความแปลกใหม่และลดความรู้สึกเขินอายเมื่อต้องเลือกซื้อสินค้า โดยคำสั่งซื้อดังกล่าวมาจากลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น และได้เริ่มวางจำหน่ายสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถ้าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคก็มีโอกาสที่ TNR จะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อเพิ่มจำนวนสาขาที่วางจำหน่ายให้มากยิ่งขึ้น

“เราได้เร่งขยายตลาดในจีนและญี่ปุ่นตามแผนงาน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศถือเป็นตลาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียที่มีประชากรเป็นจำนวนมากและมีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างแพร่หลาย แต่ก็มีคู่แข่งขันทั้งจากผู้ประกอบการในจีนและแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยความเชี่ยวชาญการผลิตสินค้าและการควบคุมคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานในระดับสากล จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและแผนงานขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียต่อไปในอนาคต” นายอมร กล่าว