TNR รุกเพิ่มตัวแทนจำหน่ายถุงยางอนามัย PLAYBOY ในต่างประเทศ เพิ่มยอดขายหลังทยอยส่งมอบสินค้าหนุนผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง

ย้อนกลับ18 กรกฎาคม 2561

บมจ. ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ (“บริษัทฯ”) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ONETOUCH(TM) และล่าสุดได้ซื้อสิทธิ์แบรนด์ PLAYBOY เดินหน้ารุกขยายตลาด PLAYBOY ในต่างประเทศตามแผนงานโดยสามารถเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายใหม่อีก 10 ราย ทำให้ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่การขายใน 84 ประเทศ พร้อมส่งทีมงานร่วมวางแผนการขายและการตลาดกับตัวแทนจำหน่ายรายเดิมในประเทศต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ด้านผู้บริหารตั้งเป้ารายได้จากแบรนด์ PLAYBOY ในปีนี้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในส่วนนี้ตั้งแต่ไตรมาส 3/61 หลังเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าบางส่วน

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ONETOUCH(TM) และ PLAYBOY กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ซื้อสิทธิ์ PLAYBOY ในการขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นทั่วโลกรวม 188 ประเทศ เป็นระยะเวลา 10 ปี ต่อสัญญาอัตโนมัติทุก ๆ ปีซึ่งถือเป็นรายแรกที่ได้รับสิทธิ์การต่ออายุสัญญาตลอดชีพภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้จาก Playboy Enterprises International, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อขยายตลาดถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ในต่างประเทศได้ตามแผนงานที่วางไว้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย (Distributor) รายใหม่ในต่างประเทศให้แก่แบรนด์ PLAYBOY โดยปัจจุบันมีคู่ค้ารายใหม่ในภูมิภาคอาเซียนและทวีปยุโรปที่เซ็นสัญญาเพิ่มเติมแล้ว และที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมประมาณ 10 ราย อาทิ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปานามา นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการต่อสัญญากับตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่ดูแลตลาด 39 ประเทศในทวีปแอฟริกาอีกด้วย ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีตัวแทนจำหน่าย PLAYBOY รวมประมาณ 35 ราย ครอบคลุม 84 ประเทศ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ส่งทีมงานด้านการขายและการตลาด เข้าไปร่วมทำงานกับตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ PLAYBOY ในประเทศต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนและให้คำแนะนำด้านการขาย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่คู่ค้าในประเทศต่าง ๆ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพในการขยายตลาดได้อีกมาก หากมีการวางแผนร่วมกันพัฒนาตลาดอย่างจริงจัง เช่น ประเทศจีนที่เป็นตลาดใหญ่ได้วางแผนร่วมกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทฯ จะรุกขยายตลาดผ่านช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรเป็นจำนวนมากและมีกำลังซื้อสูง และจะขยายตลาดผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ชเพื่อเพิ่มยอดขายอีกทางหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้ปรับโฉมแพ็กเก็จจิ้งถุงยางอนามัย PLAYBOY รูปแบบใหม่ ที่มีความสวยงามและทันสมัยมากยิ่งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันอยู่ระหว่างทยอยวางตลาดในประเทศต่าง ๆ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TNR กล่าวว่า ตั้งแต่ไตรมาส 3/61 บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้ค่าลิขสิทธิ์และจากการทยอยส่งมอบถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่น PLAYBOY ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ในครึ่งปีหลังที่จะมียอดขายสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าจะมีรายได้จากแบรนด์ PLAYBOY ในปีนี้ประมาณ 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 150 ล้านบาท

“หลังจากเข้าซื้อสิทธิ์แบรนด์ PLAYBOY ถือว่าเราสามารถขยายตลาดได้ดี สามารถเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ได้มากกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ปัจจุบันเราได้รับคำสั่งซื้อสินค้าและเริ่มทยอยส่งมอบให้ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่แล้ว สำหรับตัวแทนจำหน่ายรายเดิมในประเทศอื่น ๆ เราได้ทยอยเข้าไปร่วมวางแผนการขายและทำการตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มยอดขาย ดังนั้นเชื่อว่าเราจะสามารถทำรายได้จากค่าลิขสิทธิ์และยอดขายสินค้า PLAYBOY ได้ตามเป้าหมาย” นายอมร กล่าว